ประติมากรรม
ประติมากรรมในสมัยโรมัน
จำแนกออกได้เป็น 2 แบบ
1 นิยมทำภาพนูนสูงประดับอนุสาวรีย์หรือบันทึกเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ในยุคนั้น
ประดับตัวสถาปัตยกรรม ชิ้นที่เก่าแก่มากคือ
The Altar of Peace แท่นบูชาสันติภาพสร้างโดยจักรพรรดิ์
ออกุสตุส ราว 13-9 BC เป็นอนุสรณ์การกลับคืนสู่โรมหลังจากการรบในต่างแดน
เสาของทราจัน(The Column of Trajan)สร้างโดยสภาเซเนทและประชาชน
ทราจัน เป็นจักรพรรดิที่ทรงอำนาจของโรม บทบาทของเขาไม่เพียงในทางการเมืองแต่เป็นเรื่องการทหารด้วย ขยายดินแดนของจักรวรรดิและปกป้องมันจากการรุกรานภายนอก
ชัยชนะของเขาได้เฉลิมฉลองโดยใช้เสาแห่งชัยชนะเป็นอนุสาวรีย์อยู่ในกรุงโรม
เสาเป็นอนุสาวรีย์ที่บันทึกเหตุการณ์ สร้างขึ้นราว ค.ศ.
113 บริเวณโฟรัมของทราจันเอง เป็นเสากลมสูง 128 ฟุต เส้นผ่านศูนย์กลาง 10 ฟุต
ยอดเสามีรูปปั้นทราจันสูง 13 ฟุตปัจจุบันเปลี่ยนเป็นรูปเซ็นต์ปีเตอร์ตั้งแต่ศตวรรษที่
16 รูปทราจันเองสูญหายไป โคนเสาเป็นฐานสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาด 12x 12 ฟุต
มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้บรรจุศพของทราจันและเป็นอนุสรณ์แก่ชัยชนะในการรบต่อพวกดาเชี่ยน
2.ทำรูปเหมือนบุคคล
นิยมมาตั้งแต่สมัยสาธารณรัฐ
มาถึงสมัยจักรวรรดินิยมก็ยังคงนิยมอยู่แต่ต่างกันบ้างในรายละเอียดคือสมัยสาธารณรัฐนิยมทำภาพเหมือนจริงของบุคคลให้มีความเหมือนตามจริงมากที่สุดแต่ในสมัยจักรวรรดินิยมชอบให้แสดงออกถึงลักษณะอันสง่างาม
เป็นอุดมคติ โดยเฉพาะรูปชนชั้นสูงจะดูสง่างามราวเทพ เจ้าของกรีก เป็นการผสมผสานระหว่างความเหมือนจริง
(Realism)
กับความเป็นอุดมคติ (Idealism) ส่วนรูปประชาชนทั่วไปก็ยังคงมีลักษณะแบบเหมือนจริงเช่นเดิม
ซึ่งจะเต็มไปด้วยลักษณะสมจริงของตัวบุคคลอย่างชัดเจน มีลักษณะของแบบอย่างอุดมคติน้อยที่สุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น