วันศุกร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2555

สรุป




สรุป
การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันก่อนหน้านี้ โรมในสมัยของจักรพรรดิคอนสแตนติน มีอาณาเขตกว้างขวางมาก จนมีการแบ่งการปกครองเป็นสองส่วนตะวันออกกับตะวันตก แต่แทนที่จะมีการปกครองที่ดีขึ้น ทั้งสองฝั่งกับทำสงครามกันเองเพื่อความเป็นใหญ่
                จักรพรรดิคอนสแตนตินที่ 1 เป็นจักรพรรดิทางด้านตะวันออกที่ทำสงครามชนะ สามารถบุกเข้าโรม รวมอาณาจักรโรมันไว้เป็นหนึ่งเดียว แต่ครั้งนี้เมืองหลวงไม่ได้อยู่ที่โรมเสียแล้ว เนื่องจากว่าคอนสแตนตินเป็นจักรพรรดิด้านตะวันออกก็อยากจะอยู่ที่ด้านตะวันออก เขาจึงย้ายเมืองหลวงไปที่ คอนสแตนติโนเปิล เมืองท่าปากทางเข้าทะเลดำซึ่งก็ตั้งตามชื่อของเขาเอง ซึ่งเดิมชื่อ ไบแซนทิอุม หรือ ไบแซนไทน์ (Byzantium) ปัจจุบันคือ อิสตันบุล (ตุรกี)
                ในช่วงวาระสุดท้ายคอนสแตนตินก็หันไปพึ่งศาสนาในขณะที่นอนป่วยอยู่บนเตียง มีเรื่องเล่าว่าครั้งที่คอนแสตนตินจะข้ามแม่น้ำไปยังกรุงโรมในสมัยสงคราม กลางเมืองเขาได้เห็นนิมิตจากสวรรค์ (ชึ่งก็พึ่งจะแปลความหมายออกตอนนอนป่วย) เขาทำให้ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาของจักรวรรดิ ซึ่งกฎหมายของพวกโรมันบังคับให้ประชาชนต้องหันมานับถือ ศาสนาคริสต์จึงแพร่หลายในยุโรป
                ค.ศ.476 เผ่าเยอรมันปลดจักรพรรดิองค์สุดท้ายของโรมันตะวันตก ถือเป็นการสิ้นสุดจักรวรรดิโรมัน ดินแดนยุโรปจึงแยกแยกออกเป็นอาณาจักร ชนเผ่าต่าง ๆ เกิดความวุ่นวายทางการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม หลังจากการล่มสลายของกรุงโรม โรมันทางฝั่งตะวันออกก็ค่อยๆ ลืมเลือนความยิ่งใหญ่ของตัวเองในฟากตะวันตกไปหมด จักรพรรดิองค์ต่อๆ มาก็ไม่ใช่คนจากอิตาลีอีกต่อไป แต่เป็นชาวกรีกดั้ง เดิมที่อยู่มาก่อนพวกโรมัน พวกกรีกเมื่อไม่รู้สึกถึงคุณค่าของความเป็นโรมันก็ตั้งชื่ออาณาจักรใหม่เป็น ไบแซนไทน์” (Byzantine) ตามชื่อเก่าของเมืองคอนสแตนติโนเบิลเมืองที่มั่งคั่งที่สุดในยุโรปยุคมืด แต่ชาวอาหรับที่ขยายอำนาจออกมาก็ทำให้ไบแซนไทน์เสื่อมอำนาจลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็มาเสียกรุงให้กับชาวเติร์ก (Turk) ทำให้กรุงไบเซนติอุมกลายเป็นเมืองหลวงในชื่อ อิสตันบูล (Istanbul) จนถึงปัจจุบัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น